EURO 5 (มาตรฐานไอเสียยูโร 5)
มาตรฐาน EURO ย่อมาจาก European Emission Standards คือ การควบคุมค่ามาตรฐานไอเสียในอุตสาหกรรมยานยนต์ของทวีปยุโรป โดยการควบคุมการปล่อย คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ไฮโดรคาร์บอน (HC), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และ ฝุ่นละออง (PM)
ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา สถานการณ์มลพิษในประเทศไทย อยู่อันดับที่ 36 ของโลก!!
อีกทั้ง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอันดับ 1 !! เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศก็มาจาก การเผาป่า การทำอุตสาหกรรม และจากไอเสียรถยนต์
มลพิษในไอเสียรถยนต์มีอะไรบ้าง
PM 2.5 - เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร หรือเล็กกว่าเส้นผม 20-30 เท่า
NOx ไนโตรเจนออกไซด์ - เกิดจากกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ มีองค์ประกอบทางเคมีของไนโตรเจนและออกซิเจน
CO ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ - เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันดีเซล
HC ก๊าซไฮโดรคาร์บอน - เป็นก๊าซที่เหลือจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันหล่อลื่น แล้วถูกขับออกมากับไอเสีย
แล้วส่งผลเสียต่อร่างกายยังไง
มลพิษทางอากาศเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่เราคิด จากสถิติองค์การอนามัยโลกได้ประมาณการมีประชากรที่ต้องเสียชีวิตจากมลพิษในอากาศทั่วโลกมากกว่า 7 ล้านคนในแต่ละปี !!!
ซึ่งมลพิษดังกล่าวเป็นอันตรายหลายส่วนทั้งระยะสั้นและระยะยาว อันตรายต่อหัวใจ อันตรายต่อปอดและทางเดินหายใจ อันตรายต่อสมอง
ดังนั้นประเทศไทยจึงประกาศกำหนดมาตรฐาน Euro 5 เพื่อมาควบคุมมลพิษในรถยนตร์ที่ผลิตใหม่ ซึ่งจะลดมลพิษดังกล่าว ได้มากถึง 80% !!!
อุปกรณ์ที่ช่วยให้รถบรรทุกผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 5
สิ่งนั้นคือ อุปกรณ์บำบัดไอเสีย แทนท่อพักไอเสียเดิมโดยอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ DPR และ SCR
DPR (Diesel Particulate Active Reduction) หรือ อุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียดีเซล
หลักการทำงาน
ทำหน้าที่กรองและกักเก็บฝุ่นขนาดเล็ก เมื่อตัวกรองเริ่มอุดตันจากเขม่าตัวอุปกรณ์นี้จะสร้างความร้อนโดยใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพื่อเผ่าเขม่าให้มีขนาดเล็กลง
ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า Regeneration หรือ กระบวกการเผาเขม่า
จริงหรือไม่ อุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียดีเซล (DPR) เหมาะกับรถบรรทุกขนาดเล็ก?
อุปกรณ์ DPR ไม่ได้เหมาะสมกับการใช้งานในรถบรรทุก ทุกรุ่น
ในเครื่องยนต์บางยี่ห้อ ต้องปรับลดแรงม้า เพื่อให้เหมาะสมกับ
ขีดความสามารถในการบำบัดไอเสียของอุปกรณ์ และต้องใช้น้ำมันดีเซลในกระบวนการเผาเขม่า
คุณสมบัติของอุปกรณ์ DPR
จุดเด่น: ไม่มีผลกระทบต่อน้ำหนักบรรทุกและพื้นที่ข้างคัสซีเนื่องจาก อุปกรณ์มีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกับหม้อพักไอเสียแบบมาตรฐานปกติ
ลดมลพิษ: ลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ด้วยชั้นกรองแบบรังผึ้ง
ต้นทุนการใช้งานเพิ่มเติม: ต้องใช้น้ำมันดีเซล สำหรับการเผาเขม่า (Regeneration)
สมรรถนะ: สมรรถนะเครื่องยนต์ลดต่ำลง
ข้อควรระวัง: หากมีการอุดตันเกิดขึ้นอาจจะต้องจอดรถเพื่อทำการRegeneration หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็ค
ความเหมาะสม: รถบรรทุกขนาดเล็ก (LDT) ใช้งานระยะทางใกล้ เช่น ใช้งานภายในเมืองหรือภายในจังหวัด
จากจุดเด่นของอุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียดีเซล (DPR) จะเห็นว่า เหมาะสมกับรถบรรทุกที่มีขนาดเล็ก
เนื่องจากอุปกรณ์มีน้ำหนักใกล้เคียงกับหม้อพักไอเสียแบบมาตรฐานปกติ และไม่ต้องติดตั้งถังข้างคัสซีเพิ่มเติม
ข้อควรระวังของระบบ DPR ⚠
ระบบ DPR อาจจะมีการอุดตันของเขม่าที่สะสมไว้ได้หากระบบเผาเขม่า (Regeneration) ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับตัวอุปกรณ์ ผู้ขับขี่จำเป็นต้องตรวจสอบเกจวัดและสัญลักษณ์แจ้งเตือนที่เรือนไมล์อยู่เสมอ
โดยมีเกจวัดบอกปริมาณเขม่าสะสมในอุปกรณ์
Normal mode ใช้งานปกติ 🟢 รถมีการเผาเขม่าอัตโนมัติขณะเครื่องยนต์ทำงาน (ไม่มีสัญลักษณ์เตือน ไม่มีไฟแจ้งเตือน)
Manual mode ควรระวัง 🟡 ผู้ขับต้องหยุดรถและกดสวิตซ์เผาเขม่าโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที (ไฟ DPR เตือน ไฟกระพริบ)
Fail safe mode นำรถเข้าศูนย์บริการ 🔴 ไม่สามารถเผาเขม่าเองได้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงต้องนำรถเข้าศูนย์ ฯ (ไฟ Engine เตือน ไม่มีไฟแจ้งเตือน)
เรามารู้จัก SCR กันบ้างดีกว่า ว่าทำงานอย่างไร
อุปกรณ์อีกตัวหนึ่งที่จะทำให้รถบรรทุกผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 5 คือ Selective Catalytic Reduction (SCR)
อุปกรณ์เร่งปฏิกิริยา เพื่อช่วยลดระดับการปล่อย NOx
โดยระบบ SCR ต้องการสารละลายยูเรีย หรือเรียกว่า AdBlue® เพื่อไปทำปฏิกิริยากับมลพิษในไอเสียที่มีชื่อว่า NOx เพื่อเปลี่ยนเป็นก๊าซไนโตรเจนและน้ำทำให้ไอเสียที่ออกมา
สะอาดมากยิ่งขึ้นและสามารถรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่น